CC (E-01)

เอจีซี วีนิไทย ผนึกกำลังรักษ์ทะเล สร้างจิตสำนึกรักษาชายฝั่งในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล 2567

บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกลุ่มบริษัทในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บ้านฉาง รวมกว่า 30 องค์กร จัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลประจำปี 2567 ครั้งที่ 22 เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษาความสะอาดชายฝั่ง และปลูกฝังการคัดแยกขยะ โดยมีจิตอาสากว่า 3,500 คน ร่วมพัฒนาพื้นที่ชายหาดจังหวัดระยอง ระยะทางกว่า 18 กิโลเมตร เริ่มจากหาดแหลมเจริญ หาดสุชาดา พระเจดีย์กลางน้ำในอำเภอเมืองระยอง และหาดน้ำริน หาดพยูน หาดพลาในอำเภอบ้านฉาง ซึ่งในปีนี้จิตอาสาจากทุกองค์กรสามารถเก็บขยะได้รวมกว่า 3,800 กิโลกรัม

โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 คณะผู้บริหารและพนักงานพร้อมด้วยครอบครัวเอจีซี วีนิไทยจากทุกไซต์รวมจำนวน 190 คน นำโดยนายโทโมทากะ โยชิคาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่, นายโทโมยูเกะ คาเนะโกะ รองกรรมการบริหารอาวุโส และนายวรเทพ เลิศวิญญู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ได้นำพนักงานและครอบครัวร่วมกันเก็บขยะบริเวณชายหาดแสงจันทร์เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมจำนวนขยะที่เก็บได้ 244 กิโลกรัม ซึ่งขยะที่เก็บได้เหล่านี้ได้ถูกคัดแยกอย่างถูกต้อง เพื่อนำไปรีไซเคิลให้เกิดคุณค่าใหม่ หรือนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป

“ภายใต้วิสัยทัศน์ “Look Beyond” ของเอจีซีที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่  เราให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืนเพื่อโลกของเรา” ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมร่วมใหม่ที่พนักงานเอจีซีทั่วโลกต่างมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราต่างมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน พร้อมไปกับการเติบโตและพัฒนาตลอดเวลา ผมเชื่อว่าความมีจิตอาสาในตัวของทุกคนและการเข้าร่วมกิจกรรมทำความสะอาดชายฝั่งเป็นเวลายาวนานถึง 15 ปีติดต่อกันของพวกเรานั้น เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจที่แข็งแกร่งในการบรรลุถึงความยั่งยืนไม่เพียงเพื่อทุกคนในวันนี้ หากแต่ทำเพื่อคนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคตอีกด้วย” นายโทโมทากะ โยชิคาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว

ทั้งนี้ เอจีซี วีนิไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรมทำความสะอาดชายฝั่งเป็นเวลายาวนานถึง 15 ปีติดต่อกัน จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในการบรรลุถึงความยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงเป็นการกระทำเพื่อทุกคนในวันนี้ หากแต่ทำเพื่อลูกหลานของพวกเรารุ่นต่อๆ ไปในอนาคต

มอบ PVC

เอจีซี วีนิไทย ยืนหยัดเคียงข้างผู้ประสบภัย มอบท่อพีวีซีเร่งฟื้นฟูประปาภูเขาหลังเผชิญอุทกภัยครั้งใหญ่ที่จังหวัดเชียงราย

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และนายณัฐพล รังสิตพล (ที่ 4 และ 3 จากขวาตามลำดับ) รับมอบท่อน้ำประปาพีวีซี จากนายทศพร บุณยพิพัฒน์, นายโนบูโอะ นาคาโอะ และนายวรเทพ เลิศวิญญู (ที่ 4, 3 และ 2 จากซ้ายตามลำดับ)

 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมรับมอบท่อน้ำประปาพีวีซี มูลค่า 1,000,000 บาท จากนายทศพร บุณยพิพัฒน์ รองประธานกรรมการบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) และผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), นายโนบูโอะ นาคาโอะ กรรมการบริหาร และนายวรเทพ เลิศวิญญู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

การบริจาคครั้งนี้ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผงพลาสติกพีวีซีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเร่งฟื้นฟูระบบประปาภูเขาซึ่งเป็นระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ ของตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอุทกภัยน้ำท่วมให้กลับมาใช้การได้เป็นปกติเพื่อให้ชุมชนได้มีน้ำประปาอุปโภคบริโภคโดยเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​“เอกนัฏ” นำทัพกระทรวงอุตฯ เร่งฟื้นฟูระบบน้ำประปา ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมเยียวยา พักชำระหนี้เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้โครงการ อุตสาหกรรมรวมใจ (thaigov.go.th)

TV (6)

เอจีซี วีนิไทย ผนึกกำลังร่วมกับ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และผู้ประกอบการพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ มอบกระเป๋าปฐมพยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์ แก่มูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) จังหวัดระยอง

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณวิไลลักษณ์  พินิจบุญภากร รองผู้จัดการแผนกสื่อสารองค์กร ร่วมสนับสนุนกระเป๋าปฐมพยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์ ให้แก่ มูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) จังหวัดระยอง โดยมี นายวัชระ กันตังกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) และ พระครูสังฆวิสิทธิคุณ ดร.บุญยุทธ เมืองทอง ประธานมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ (ปู่อินทร์) จังหวัดระยอง เป็นผู้รับมอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานของมูลนิธิฯ บรรลุวัตถุประสงค์ ในการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งผู้ป่วย ในพื้นที่รับผิดชอบ สิ่งแรกในการปฐมพยาบาลคือ กระเป๋าสำหรับปฐมพยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์

บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนกระเป๋าปฐมพยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์ เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ และผู้ประสบภัยต่างๆ รวมทั้งในกิจการสถานีตำรวจส่วนราชการ และยังร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานของมูลนิธิฯ ได้แก่ ท้องที่ สภ.มาบตาพุด, สภ.ห้วยโป่ง, สภ.นิคมพัฒนา, สภ.บ้านฉาง, สภ.เขาชะเมา และ สภ.น้ำเป็น

20240819_085202_560

เอจีซี วีนิไทย คว้า 4 รางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาวดาวเขียว-ธงขาวดาวทอง) ประจำปี 2566 จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยยอดเยี่ยม (ธงขาว-ดาวทอง : Gold Star Award) จาก รศ.ดร. วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวเขียว : Green Star Award) จากนายคณพศ ขุนทอง รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 4 รางวัล ณ โรงแรม โนโวเทล ระยอง สตาร์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดระยอง

นายนฤดม ลาชโรจน์

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มงานบริหารการจัดซื้อและซัพพลายเชน

รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยยอดเยี่ยม (ธงขาว-ดาวทอง)

สำหรับโรงงานมาบตาพุด 1

นายบุญชนะ มังกรกาญจน์

รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส โรงงานมาบตาพุด 2

รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยยอดเยี่ยม (ธงขาว-ดาวทอง)

สำหรับโรงงานมาบตาพุด 2

นายนิรันดร์ อารีย์ชน

ผู้จัดการแผนกบริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวเขียว)

สำหรับโรงงานมาบตาพุด 1

นายเจษฎาพจน์ เดชะรัฐ

ผู้จัดการแผนกบริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวเขียว)

สำหรับโรงงานมาบตาพุด 2

รางวัลฯ อันทรงเกียรตินี้แสดงให้เห็นว่า เอจีซี วีนิไทย เป็นบริษัทฯ ที่ยึดมั่นในการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการดำเนินธุรกิจและประกอบกิจการอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน โปร่งใสตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้อุตสาหกรรม อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

F2

เอจีซี วีนิไทย ส่งมอบแผนฉุกเฉินชุมชนซอยประปา เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติเน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน

บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติของชุมชน จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับชุมชน โดยได้ประสานความร่วมมือเป็นเครือข่ายในการจัดทำแผนฯ กับหน่วยงานราชการท้องถิ่น สมาคมฯ และองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สมาคมเพื่อนชุมชน บริษัท บางกอกโคเจนเนอเรชั่น จำกัด บริษัท ศักดิ์ไชยสิทธิ จำกัด บริษัท โอเอสซี สยามซิลิกา จำกัด และ บริษัท ทานิโอบิส จำกัด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ชุมชนในพื้นที่มีความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ สามารถป้องกัน และช่วยเหลือตนเองพร้อมชุมชนข้างเคียง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบและความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้เป็นอย่างดี

โดยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ผู้แทนจากฝ่ายอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนจากฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยองค์กรพันธมิตรดังกล่าวได้ร่วมส่งมอบแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับ นายสมชาย แซ่อุ่น ประธานชุมชนซอยประปา ณ ที่ทำการชุมชนซอยประปา พร้อมเชิญผู้แทนจากชุมชนฯ เข้าร่วมฝึกซ้อมตอบโต้เหตุฉุกเฉินและอพยพหนีไฟ ระดับ 2 ของการนิคมอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ณ โรงงานมาบตาพุด 1 เพื่อให้ชุมชนซอยประปาได้ซ้อมปฎิบัติเสมือนสถานการณ์จริงตามมาตรฐานของการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับชุมชนด้วย

Sign

คณะผู้บริหารระดับสูงจาก PTTGC และ GCME เยี่ยมชมการก่อสร้างโครงการซากุระ

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และบริษัท จีซี เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เอนจิเนียริง จำกัด (GCME) นำโดยนายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติมาเยี่ยมชมความก้าวหน้าของการก่อสร้างโครงการซากุระ โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงของเอจีซี วีนิไทยนำโดย นายโทโมทากะ โยชิคาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ โรงงานมาบตาพุด 1

หลังจากรับฟังบรรยายสรุปแล้ว นายโคจิ อาเบะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส, นายโชคพินิจ ล้อมคำดี ผู้จัดการฝ่ายผลิตพีวีซี ผู้จัดการฝ่ายโครงการส่วนต่อขยาย และนายภัทรวรรธน์ ปฐมทัพพ์มงคล ผู้จัดการโครงการของ GCME ได้นำคณะชมพื้นที่ก่อสร้างพร้อมอธิบายถึงความก้าวหน้าของการก่อสร้างโครงการฯ

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่คณะผู้บริหารระดับสูงจาก PTTGC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่และ GCME ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ได้มาติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างส่วนต่อขยายโรงงานผลิตไวนิลคลอไรด์ และโรงงานผลิตผงพลาสติกพีวีซีภายใต้โครงการซากุระนี้จะแล้วเสร็จภายในกลางปีหน้า

Untitled design (6)

ก้าวไปอีกขั้นกับการพัฒนาสารเคลือบอีพ็อกซี่ชีวภาพโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน), มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน (MSU) และ บริษัท allnex

(วันที่ 30 กรกฎาคม 2567, สหรัฐอเมริกา) การศึกษาค้นคว้าวิจัยสารเคลือบชีวภาพ 100% ของบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศาสตราจารย์ Mojgan Nejad แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน (MSU) ได้เข้าสู่การพัฒนาโครงการระยะที่ 2 โดยจับมือกับพันธมิตรใหม่เพิ่มเติมคือบริษัท allnex ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านสารเคลือบอุตสาหกรรม และสารเติมแต่ง

จากการพัฒนาเพื่อเพิ่มปริมาณสารชีวภาพในสารเคลือบและอีพ็อกซี่เรซิ่น ทางบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับศาสตราจารย์ Mojgan Nejad เพื่อศึกษาลิกนินที่เหมาะสมที่นำมาใช้แทนสารบีพีเอ (Bisphenol A, BPA) สำหรับสูตรอีพ็อกซี่เรซิน โดยผลงานเบื้องต้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ในบทความเรื่อง “Choosing the right lignin to fully replace Bisphenol A in epoxy resin formulation” ในวารสาร ChemSusChem (https://doi.org/10.1002/cssc.202002729) เมื่อเดือนมกราคม 2564

สำหรับโครงการระยะที่ 2 นี้ได้เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อทางบริษัท allnex ได้เข้าร่วมการพัฒนาโครงการนี้ด้วย ซึ่งบริษัท allnex เป็นผู้นำระดับโลกด้านพอลิเมอร์ชนิดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมการเคลือบ สารตกแต่ง และวัสดุผสม โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

คุณมาซาโยชิ นัมบะ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจจากบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นคุณค่าหลักของบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) และ EPINITY® เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่โดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา และการได้ร่วมมือกับพันธมิตรของเราทำให้สามารถพัฒนาความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง”

ศาสตราจารย์ Mojgan Nejad จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกันระหว่าง MSU บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท allnex เพื่อพัฒนาสารเคลือบอีพ็อกซี่ชีวภาพ โดยใช้ลิกนินมาแทนที่บีพีเอ และใช้อีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพจากบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาสารเคลือบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนที่ดีมากขึ้น”

คุณ Florian Lunzer ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเชิงกลยุทธ์ของบริษัท allnex กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมด้านสารเคลือบผิว บริษัท allnex มุ่งเน้นไปที่เคมีเชิงนวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งทางเรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ MSU และ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อนำผลิตภัณฑ์สารอีพ็อกซี่ที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ต่ำกว่าและปราศจากบีพีเอไปสู่ตลาดที่เราให้บริการ”

โดยโครงการนี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2569

Mit_PVC (1)

เอจีซี วีนิไทย ประสบความสำเร็จได้รับใบรับรอง Made in Thailand (MiT) สำหรับผลิตภัณฑ์พีวีซี

บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย Made in Thailand (MiT) สำหรับผลิตภัณฑ์ผงพลาสติกพีวีซี (PVC RESIN)

บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน)ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย Made in Thailand (MiT) สำหรับผลิตภัณฑ์ผงพลาสติกพีวีซี (PVC RESIN) เอจีซี วีนิไทย เป็นผู้ผลิตพีวีซีรายแรกที่ได้รับใบรับรอง MiT จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทฯ มุ่งมั่นสนับสนุนกลุ่มลูกค้าฯ ให้สามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์พีวีซีจากต่างประเทศและสนับสนุนการเปิดตลาดของลูกค้าสู่หน่วยงานราชการอย่างเป็นรูปธรรม

Cover

เอจีซี วีนิไทย เดินหน้าปลูกป่าสร้างพื้นที่สีเขียวให้คุ้งบางกะเจ้าต่อเนื่องปีที่ 2

จิตอาสาชาวเอจีซี วีนิไทยและครอบครัว พร้อมด้วยพันธมิตร CSR สานต่อโครงการ “เอจีซี วีนิไทยรวมพลัง พลิกฟื้น…พื้นที่สีเขียวให้คุ้งบางกะเจ้า” เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่องให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นปีที่ 2 หวังลดคาร์บอนสร้างอากาศบริสุทธิ์ พร้อมชุมชนโดยรอบเก็บเกี่ยวประโยชน์จากพันธุ์ไม้สร้างรายได้ยกคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายวรเทพ เลิศวิญญู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานวางแผนองค์กร, นายโทโมยูกิ คาเนะโกะ รองกรรมการบริหารอาวุโส กลุ่มงานบริหารส่วนขยายโรงงานมาบตาพุด 1 และ 2, นายสิมาไชย พวงเพ็ชร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส โรงงานพระประแดง พร้อมด้วยพนักงานและครอบครัว รวมถึงผู้แทนจากบริษัทพันธมิตร CSR ย่านถนนสุขสวัสดิ์ ได้แก่ บริษัท สายไฟฟ้าไทย-ยาซากิ จำกัด, บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน), บริษัท เอจีซี แฟลทกลาส (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) และบริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 160 คน ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่องาน “เอจีซี วีนิไทยรวมพลัง พลิกฟื้น…พื้นที่สีเขียวให้คุ้งบางกะเจ้า ปี 2” โดยมีพิธีเปิดงานฯ ณ สวนสาธารณะและสวนพฤษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์ ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ภายหลังจากเสร็จพิธีเปิดงานฯ กลุ่มจิตอาสาได้เดินทางไปยังแปลงปลูกซึ่งตั้งอยู่ที่แปลงเลขที่ 5346 ซอย 16/1 ต.บางกะเจ้า เพื่อร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 10 สายพันธุ์ รวม 1,000 ต้น อาทิ ต้นประสัก ต้นพิลังกาสา ต้นทองอุไร ต้นประดู่ทะเล ต้นมะขาม ต้นกาสะลอง ต้นหว้า ต้นคูณ ต้นสักทอง ต้นยางนา ต้นพยอม ต้นตะเคียนทอง ต้นอินจัน ต้นอินทนิล และต้นมะค่าโมง โดยได้รับการสนับสนุนกล้าพันธุ์ไม้จากศูนย์จัดการพื้นที่สีเขียวเชิงนิเวศนครเขื่อนขันธ์ กรมป่าไม้ ซึ่งพันธุ์ไม้ดังกล่าวนอกจากจะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของคุ้งบางกะเจ้าให้กลับคืนมาแล้ว ชาวชุมชนในพื้นที่ยังจะได้ใช้ประโยชน์จากผลผลิตของต้นไม้ที่ปลูกไว้ด้วย

“ในฐานะบริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมถือเป็นพันธกิจสำคัญที่ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ และที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือน “ปอด” ที่ช่วยฟอกอากาศให้กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ซึ่งคุ้งบางกะเจ้าเองก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอพระประแดง โดยมีโรงงานพระประแดงของบริษัทเอจีซี วีนิไทย และบริษัทพันธมิตร CSR ทั้ง 5 บริษัทประกอบการผลิตอยู่ ดังนั้นทุกท่านที่มาร่วมปลูกต้นไม้ในวันนี้จึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทฯ บรรลุพันธสัญญาด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ได้ตั้งไว้” นายวรเทพ เลิศวิญญู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสกล่าวในพิธีเปิดฯ

“ผมขอขอบคุณพนักงานและครอบครัวที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้นไม้ในแปลงปลูกเดิมที่บริษัทฯ ได้ร่วมกันปลูกในปีที่แล้วนั้น ทางกรมป่าไม้ได้ดูแลพันธุ์ไม้ให้สามารถยืนต้นได้เองและเติบโตอย่างสมบูรณ์เป็นอย่างดี  นับได้ว่าพื้นที่แปลงปลูกของบริษัทฯ เป็นแปลงต้นแบบในการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้คุ้งบางกะเจ้าด้วยการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ใหม่ที่สามารถดูดซับคาร์บอนเพิ่มออกซิเจนได้มากขึ้นกว่าพันธุ์ไม้เดิมและผลผลิตจากต้นไม้ที่ปลูกใหม่ยังเกิดประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกทาง” นายนพดล ภูววิมล หัวหน้าศูนย์จัดการพื้นที่สีเขียวเชิงนิเวศนครเขื่อนขันธ์กล่าวชื่นชมต่อความตั้งใจจริงของชาวเอจีซี วีนิไทย

พื้นที่คุ้งบางกะเจ้าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงต้องการให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้าแห่งนี้ และทรงมีพระราชดำริว่า ควรสงวนพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่สีเขียวและคงความเป็นปอดของคนเมืองไว้ และในปี พ.ศ. 2549 นิตยสารไทม์เอเชีย (Time Asia) ฉบับ Best of Asia ได้ยกย่องให้บางกะเจ้าเป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย และถูกขนานนามว่า “ปอดกรุงเทพฯ”* ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่เอจีซี วีนิไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าแห่งนี้

*ข้อมูลจาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

https://www.dasta.or.th/th/article/465

04

เอจีซี วีนิไทย มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน โรงเรียนหนองแฟบ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงและความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา

บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของพัฒนาการเด็กและเยาวชนในพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง จึงได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์กีฬา อาทิ ฟุตบอล วอลเลย์บอล เปตอง บาสเก็ตบอล และแบดมินตัน แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองแฟบ โดยได้รับเกียรติจากนางนภัส ทอมุด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองแฟบเป็นผู้รับมอบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา การสนับสนุนในครั้งนี้บริษัทฯ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมให้เยาวชนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมทั้งเรียนรู้การมีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็กและเยาวชนของโรงเรียนบ้านหนองแฟบนั่นเอง