BIGXAGC-12501

เอจีซี วีนิไทย และ บีไอจี ลงนามความร่วมมือส่งมอบไนโตรเจน-ออกซิเจนคาร์บอนต่ำผ่านระบบท่อส่งก๊าซสู่การผลิตปิโตรเคมีอย่างยั่งยืน

บริษัท  เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไลผงพีวีซี และอีพิคลอโรไฮดริน และ บีไอจี ผู้นำด้านนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือในการส่งมอบไนโตรเจนและออกซิเจนคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน ผ่านระบบท่อส่งก๊าซฯ (Pipeline Network) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไลและผงพีวีซี โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี พ.ศ. 2568

ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองบริษัทในการร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นการประยุกต์ใช้ Climate Technology ของบีไอจีซึ่งสามารถนำก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังถือเป็นการให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการลดก๊าซเรือนกระจกที่ร้อยละ 30 จากกรณีปกติ ภายในปี พ.ศ. 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2608 การนำก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนคาร์บอนต่ำดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการผลิตนั้นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเอจีซี วีนิไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ

(รูปซ้าย: คุณอภิชาติ กิจเจริญวิศาล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการพิเศษ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) / รูปขวา: คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี)

คุณอภิชาติ กิจเจริญวิศาล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการพิเศษ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “โครงการซากุระเป็นโครงการส่วนขยายกำลังการผลิตผงพีวีซีและวีซีเอ็ม ของเอจีซี วีนิไทย ที่เกิดจากการคาดการณ์ตลาดพีวีซีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน การนำก๊าซคาร์บอนต่ำมาใช้ในกระบวนการผลิตจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน”

คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน การจัดหาก๊าซคาร์บอนต่ำผ่านระบบท่อส่งก๊าซ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุนในการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้กับลูกค้า สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ “Generating a Cleaner Future” ของบีไอจี ที่มุ่งเน้นการจัดหาก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับภาคอุตสาหกรรม”

Coral (2)

เอจีซี วีนิไทย ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมฟื้นฟูปะการังทะเลอันดามัน เกาะระ-เกาะพระทอง

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น จัดพิธีเปิดโครงการ “เอจีซี วีนิไทย ร่วมใจปลูกปะการัง ในพื้นที่เกาะระ-เกาะพระทอง” เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะแนวปะการังบริเวณเกาะระและเกาะพระทอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา โดยได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ  ณ ศาลาเอนกประสงค์โรงเรียนเกียรติประชา ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา

พร้อมกันนี้ได้ให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการอนุรักษ์และพื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระหว่างองค์กรพันธมิตรในพื้นที่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ นี้ให้บรรลุเป้าหมาย โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมลงนาม ได้แก่ นายสมนึก บุญใหญ่ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล​ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6  นายนันทภพ มีเพียร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพระทอง นายประสาน แสงไพบูลย์ ประธานมูลนิธิรักษ์ปะการัง โดยความอุปถัมภ์ของ บมจ.เอจีซี วีนิไทย และนายวรเทพ เลิศวิญญู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานวางแผนองค์กร บมจ.เอจีซี วีนิไทย โดยมี ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมมีประชาชน อาจารย์และนักเรียนเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดเสวนา “ศักยภาพของเกาะพระทอง ผ่านมุมมองขององค์กรพันธมิตร” ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อระดมความคิดเห็นในการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นพื้นที่เกาะระ-เกาะพระทองให้มีความยั่งยืน พร้อมจัดกิจกรรมปลูกปะการังจำลอง และมอบอุปกรณ์ดำน้ำให้แก่ อาสาสมัครและกลุ่มอนุรักษ์ในท้องที่เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูแนวปะการัง